3. รูปแบบการเรียนการสอนกระบวนการคิดเป็นเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมไทย
โดย หน่วย ศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา
ก.ทฤษฎี/หลักการ/แนวคิดของรูปแบบ
หน่วยศึกษานิเทศก์
กรมสามัญศึกษา (2537) ได้พัฒนารายวิชา “การคิดเป็น เพื่อการ
พัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมไทย” ขึ้น
เพื่อพัฒนานักเรียนระดับมัธยมศึกษาให้สามารถคิดเป็นรู้จัก และเข้าใจตนเอง
รายวิชาประกอบด้วยเนื้อหา 3 เรื่อง คือ
(1) การพัฒนาความคิด (สติปัญญา)
(2) การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม
(สัจธรรม)
(3) การพัฒนาอารมณ์ ความรู้สึก
ส่วนกิจกรรมที่ใช้เป็นกิจกรรมปฏิบัติการ 4 กิจกรรม ได้แก่
(1) กิจกรรมปฏิบัติการ “ พัฒนา
กระบวนการคิด”
(2) กิจกรรมปฏิบัติการ
“พัฒนารากฐานความคิด”
(3) กิจกรรมปฏิบัติการ
“ปฏิบัติการในชีวิตจริง” และ
(4) กิจกรรมปฏิบัติการ
“ประเมินผลการพัฒนาประสิทธิภาพของชีวิต และงาน”
ในส่วนกิจกรรมปฏิบัติการพัฒนากระบวนการคิด หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา ได้
พัฒนาแบบแผนในการสอนซึ่งประกอบด้วยขั้นการสอน 5 ขั้น โดยอาศัยแนวคิดเกี่ยวกับการคิดเป็น
ของ โกวิท วรพิพัฒน์ (อ้างถึงใน อุ่นตา
นพคุณ, 2530: 29-36) ที่ว่า “คิดเป็น” เป็นการแสดง ศักยภาพของมนุษย์ในการชี้นำชะตาชีวิตของตนเอง
โดยการพยายามปรับตัวเองและสิ่งแวดล้อมให้ ผสมผสานกลมกลืนกัน ด้วยกระบวนการแก้ปัญหา
ซึ่งประกอบด้วยการพิจารณาข้อมูล 3 ด้าน ได้แก่ ข้อมูลตนเอง
ข้อมูลสังคมและสิ่งแวดล้อม และข้อมูลทางวิชาการ เพื่อเป้าหมายที่สำคัญคือมีความสุข
ข. วัตถุประสงค์ของรูปแบบ
รูปแบบนี้มุ่งช่วยพัฒนากระบวนการคิด
ให้ผู้เรียนสามารถคิดเป็น คือคิดโดยพิจารณา ข้อมูล 3 ด้าน ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
ข้อมูลสังคมและสิ่งแวดล้อม และข้อมูลทางวิชาการ เพื่อ ประโยชน์ในการดำรงชีวิตในสังคมไทยอย่างมีความสุข
ค.
กระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบ
ขั้นที่ 1
ขั้นสืบค้นปัญหา เผชิญสถานการณ์ในวิถีการดำรงชีวิต ผู้สอนอาจนำเสนอ
สถานการณ์ให้ผู้เรียนสืบค้นปัญหา
หรืออาจใช้สถานการณ์และปัญหาจริงที่ผู้เรียนประสบมาในชีวิต ของตนเอง
หรือผู้สอนอาจจัดเป็นสถานการณ์จำลอง หรือน าผู้เรียนไปเผชิญสถานการณ์นอก
ห้องเรียนก็ได้ สถานการณ์ที่ใช้ในการศึกษา อาจเป็นสถานการณ์เกี่ยวกับตนเอง
สังคมและสิ่งแวดล้อม หรือหลักวิชาการก็ได้ เช่นสถานการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจ
วัฒนธรรม สังคม ครอบครัว การเรียน การท างาน และสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ขั้นที่ 2 ขั้นรวบรวมข้อมูลและผสมผสานข้อมูล
3 ด้าน เมื่อค้นพบปัญหาแล้วให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูลความรู้ต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์ นั้น โดยรวบรวมข้อมูลให้ครบทั้ง 3 ด้าน คือ
ด้านที่เกี่ยวกับตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม และด้าน หลักวิชาการ
ขั้นที่ 3
ขั้นการตัดสินใจอย่างมีเป้าหมาย เมื่อมีข้อมูลพร้อมแล้ว
ให้ผู้เรียนแสวงหาทางเลือกในการแก้ปัญหาโดยพิจารณา ไตร่ตรองถึงผลที่จะเกิดขึ้นทั้งกับตนเอง
ผู้อื่น และสังคมโดยส่วนรวม และตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดี ที่สุด
คือทางเลือกที่เป็นไปเพื่อการเกื้อกูลต่อชีวิตทั้งหลาย
ขั้นที่ 4
ขั้นปฏิบัติและตรวจสอบ เมื่อตัดสินใจเลือกแนวทางปฏิบัติได้แล้ว
ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเองหรือ ร่วมมือกับกลุ่มตามแผนงานที่กำหนดไว้อย่างพากเพียร
ไม่ท้อถอย
ขั้นที่ 5
ขั้นประเมินผลและวางแผนพัฒนา เมื่อปฏิบัติตามแผนงานที่กำหนดไว้ลุล่วงแล้ว
ให้ผู้เรียนประเมินผลการปฏิบัติว่า การ ปฏิบัติประสบผลสำเร็จมากน้อยเพียงใด
มีปัญหา อุปสรรคอะไร และเกิดผลดีผลเสียอะไรบ้าง และ
วางแผนงานที่จะพัฒนาปรับปรุงการปฏิบัตินั้นให้ได้ผลสมบูรณ์ขึ้น
หรือวางแผนงานในการพัฒนาเรื่อง ใหม่ต่อไป
ง. ผลที่ผู้เรียนจะได้รับจากการเรียนตามรูปแบบ
หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา
(2537) ได้ทดลองใช้รูปแบบดังกล่าวในการสอน นักเรียนระดับมัธยมศึกษาแล้วพบว่า
ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดเป็น สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆได้
มีความเข้าใจในตนเองและผู้อื่นมากขึ้น เข้าใจระบบความสัมพันธ์ในสังคม
และเกิดทักษะและเจตคติที่ ดีต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น