เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (2542ข : 3-4)
ผู้อำนวยการสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (ไอเอฟดี) และนักคิดสำคัญของประเทศ
ได้อภิปรายไว้ว่า หากเราต้องการให้ประเทศไทยพัฒนาต่อไปได้ ไม่เสียเปรียบ
ไม่ถูกหลอกง่าย และสามารถคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ เราจึงจำเป็นต้องพัฒนาให้คนไทย
“คิดเป็น” คือรู้จักวิธีการคิดที่ถูกต้อง และท่านได้เสนอแนะว่าควรมีการพัฒนาความสามรถมนการคิดใน
10 มิติ ให้แก่คนไทย โดยท่านได้ให้ความหมายของการคิดไว้ใน 10 มิติดังกล่าวไว้
ซึ่งผู้เขียนขอประยุกต์มาใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนสำหรับครูเพื่อใช้ในการพัฒนาผู้เรียนดังนี้
มิติที่ 1
ความสามรถสนการคิดเชิงวิพากษ์ (critical thinking) สามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นได้โดยการฝึกให้ผู้เรียนท้าทาย
และโต้แย้งข้อสมมติฐานที่อยู่เบื้องหลังเหตุผลที่โยงความคิดเหล่านั้น
เพื่อเปิดทางสู่แนวคิดอื่นๆ ที่เป็นไปได้
มิติที่ 2
ความสามารถในการคิดเชิงวิเคราะห์ (analytical thinking) พัฒนาให้เกิดขึ้นได้โดยการฝึกใหผู้เรียนสืบค้นข้อเท็จจริง
เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง โดยการตีความ (interpretation) การจำแนกแยกแยะ (classification) และการทำความเข้าใจ (understanding) กับองค์ประกอบของสิ่งนั้นและองค์ประกอบอื่นๆ
ที่สัมพันธ์กัน รวมทั้งเชื่อมโยงความสัมพันธ์เชิงเหตุผล (causal
relationship) ที่ไม่ขัดแย้งระหว่างองค์ประกอบเหล่านั้นด้วยเหตุผลที่หนักแน่นน่าเชื่อถือ
มิติที่ 3
ความสามารถในการคิดเชิงสังเคราะห์ (synthesis type thinking)
และการฝึกให้ผู้เรียนรวมองค์ประกอบที่แยกส่วนกัน
มาหลอมรวมภายใต้โครงร่างใหม่อย่าเหมาะสม
ซึ่งจะช่วยพัฒนาผู้เรียนความสามารถของผู้เรียนในการคิดเชิงสังเคราะห์ได้
มิติที่ 4 ความสามารถในการคิดเชิงเปรียบเทียบ
(comparative thinking) การฝึกให้ผู้เรียนค้นคว้าความเหมือน/หรือความแตกต่างขององค์ประกอบตั้งแต่
๒ องค์ประกอบขึ้นไป เพื่อใช้ในการอธิบายเรื่องใดเรื่องหนึ่งบนมาตรการ (criteria) เดียวกัน เป็นวิธการช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการคิดเชิงเปรียบเทียบได้ดี
มิติที่ 5
ความสามารถในการคิดเชิงมโนทัศน์ (conceptual thinking) ผู้เรียนจะสามารถพัฒนาทักษะในการคิดแบบนี้ได้โดยการฝึกการนำข้อมูลทั้งหมดมาประสานกันและสร้างเป็นกรอบแนวความคิดใหม่มาใช้ในการตีความข้อมูลอื่นๆ
ตอ่ไป
มิติที่ 6
ความสามารถในการคิดเชิงสร้างสรรค์ (creative thinking) ความสามารถด้านนี้พัฒนาได้โดยการฝึกให้ผู้เรียนคิดออกนอกกรอบความคิดเดิมที่มีอยู่
ทำให้ได้แนวทางใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน
มิติที่ 7
ความสามารถในการคิดเชิงประยุกต์ (applicative thinking) การคิดประเภทนี้เป็นประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันมาก
ผู้สอนควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนฝึกนำสิ่งต่างๆ
ที่มีอยู่เดิมไปใช้ประโยชน์ในวัตถุประสงค์ใหม่
และปรับสิ่งที่มีอยู่เดิมให้เข้ากับบุคคล สถานที่ เวลา
และเงื่อนไขใหม่ได้อย่างเหมาะสม
มิติที่ 8
ความสามารถในการคิดเชิงกลยุทธ์ (strategic thinking) ความสามารถในด้านนี้พัฒนาได้โดยการฝึกให้ผู้เรียนกำหนดแนวทางที่เป็นรูปธรรมที่ดีที่สุดภายให้เงื่อนไขข้อจำกัดต่างๆ
เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ
มิติที่ 9
ความสามารถในการคิดเชิงวิชาการ (integrative thinking) คือการฝึกให้ผู้เรียนเชื่อมโยงเรื่องในมุมต่างๆ
เข้ากับเรื่องหลักๆ ได้อย่างเหมาะสม
มิติที่ 10
ความสามรถในการคิดเชิงอนาคต (futuristic thinking)เป็นความสามารถในการคิดขั้นสูง
ซึ่งสามารถพัฒนาได้โดยการฝึกให้ผู้เรียนคาดการณ์ และประมาณการการเปลี่ยนแปลงต่างๆ
ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยการใช้เหตุผลทางตรรกวิทยา สมมติฐาน ข้อมูล
และความสัมพันธ์ต่างๆ ของในอดีตและปัจจุบัน เพื่อคาดการณ์
ทิศทางหรือขอบเขตทางเลือกที่เหมาะสม
อักทั้งมีพลวัตรสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น